ก่อนอื่นเลยเราควรรู้ว่าไขมันเกิดขึ้นได้ยังไง?
ส่วนใหญ่เกิดจากการที่เรากินอาหารมากเกินความพอดี โดยเฉพาะอาหารที่มีแคลลอรี่สูง เช่น อาหารกลุ่มน้ำตาล แป้ง และ ไขมัน โดยไม่ออกกำลังกาย หรือใช้พลังงานไม่หมดเท่าที่กิน และเมื่อเวลาผ่านไป ไขมันเหล่านี้จะสะสมไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นไขมันส่วนเกินในที่สุด ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วที่สุดคือ การฉีดสลายไขมันเฉพาะส่วน หรือไม่ก็ดูดทิ้งไปเลย
ฉีดสลายไขมัน คืออะไร?
การฉีดสลายไขมัน คือการกำจัดไขมันส่วนเกินส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกาย โดยการฉีด สารตัวยาจำพวก Phosphatidylcholine,L-carnitine, Vitamin B, Amino acids,Minerals, ,Deoxycholate หรือ อื่นๆ เข้าไปในชั้นไขมันลึกตั้งแต่ 0.1 ไปจนถึง 12มม. เพื่อไปสลายชั้นไขมัน โดยไขมันต่างๆจะถูกขับผ่านทางปัสสาวะ และเหงื่อ ดังนั้นจึงเป็นคำตอบว่าทำไมเราถึงควรดื่มน้ำเยอะๆ หลังฉีดสลายไขมัน
ฉีดมาหลายที่ไม่เห็นลง แล้วยาที่ The Face ใช้ต่างจากที่อื่นยังไง
ยาสลายไขมัน Fat Bra ที่เราใช้ มีส่วนผสมของกรดdeoxycholicซึ่งเป็นสารที่ดูดซับไขมันที่พบในร่างกายของเราตามธรรมชาติเมื่อฉีดเข้าไปมันจะทำลายเซลล์ไขมัน เมื่อไขมันสลายไป ทำให้ผิวยกขึ้นจากการศึกษามากกว่า20ฉบับ โดยแต่ละฉบับมีผู้ป่วยหลายพันคนแสดงให้เห็นว่าเกือบร้อยละ70ระบุว่าเห็นผลเป็นที่น่าพอใจ (จากงานวิจัยพบว่า เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดผู้ป่วยควรให้การรักษาประมาณ 2-4 ครั้งเว้นระยะห่างกันเดือนละครั้ง)
ยาทำงานอย่างไร
กลไกการออกฤทธิ์ของยาคือยาจะไปออกฤทธิ์สลายเซลล์ไขมัน(cytolytic drug) โดยยาจะเข้าไปทำลายเยื่อหุ้มเซลล์(cell membrane) เมื่อไม่มีเยื้อหุ้มเซลล์ ก็ทำให้เซลล์ไขมันสลายตัว(cell lysis) แล้วถูกขับออกไปพร้อมระบบขับถ่ายของร่างกายตามปกติ ยาตัวนี้จึงถือเป็น”ทางเลือกใหม่”ทดแทนการดูดไขมัน(liposuction) หรือการผ่าตัดเนื้อเยื่อไขมันออก(lipectomy) ได้เลยทีเดียว ส่วนการใช้กับไขมันที่ส่วนอื่นของร่างกายเช่นหน้าท้องสะโพกหรือต้นขายังไม่มีรายงานวิจัยเรื่องประสิทธิภาพออกมาชัดเจนนัก แต่ก็มีผู้นำมาใช้บริเวณต่างๆ ที่กล่าวมาแล้ว ได้ผลเป็นที่น่าพอใจค่ะ
รูปแสดงเยื้อหุ้มเซลล์ที่ถูกสลายหลังการฉีด
รูปแสดงผลหลังการสลายไขมัน จะถูกขับออกตามกลไกของร่างกาย ชั้นไขมันลดลง ผิวกระชับขึ้น
อันตรายแค่ไหน
ปัจจุบันถือว่าเป็นทรีทเม้นต์ที่ได้รับการยอมรับ และทำกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกค่ะ ถามว่าอันตรายไหม ตอบเลยว่าไม่อันตราย ถ้าใช้ตามข้อจำกัดที่ระบุไว้ เพราะองค์การอาหารและยาของหลายๆ ประเทศ ก็ให้ใบอนุญาติออกมามากมายค่ะ
ล่าสุดเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา(U.S. FDA) ได้รับรองยาฉีดตัวใหม่ที่มีส่วนผสมของสารตัวนี้เป็นหลัก
ข้อบ่งชี้สำหรับ U.S. FDA ก็คือ ยานี้ใช้ฉีดลดไขมันใต้คางในรายที่มีไขมันสะสมปานกลางถึงมาก(moderate-to-severe convexity or fullness from submental fat) หรือที่คนไทยเราชอบเรียกว่า”เหนี่ยงใต้คาง” แต่ใช้ได้”เฉพาะ”ในผู้ใหญ่เท่านั้นนะค่ะ (18+ ค่ะ)
“ข้อห้าม” ของยานี้คือห้ามฉีด หากมีการติดเชื้อบริเวณใต้คางรวมถึงสิวอักเสบหรือรูขุมขนอักเสบฉะนั้นยานี้ควรได้รับการฉีดโดยแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญเท่านั้นนะคะโดยจะฉีดไปที่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง(subcutaneous fat tissue) บริเวณคาง(submental area) เท่านั้น. หากใช้ตามข้อบ่งชี้โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ก็ไม่เป็นอันตรายใดๆ ค่ะ
ขณะฉีดรู้สึกอย่างไร
ผู้ป่วยอาจรู้สึกแสบร้อนนาน 10-15 นาทีทันทีหลังการรักษา ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุดหลังจากฉีด Bra Fat คืออาการบวมและช้ำเล็กน้อย ผู้ป่วยอาจมีอาการแดงและรู้สึกไม่สบายหลังการทำทรีตเม้นต์ โดยอาการบวมของยาจะไม่นาน สูงสุดประมาณ 20 ถึง 28 ชั่วโมงหลังการฉีด และส่วนใหญ่หายไปหลังจาก 48 ชั่วโมง แต่บางครั้งอาจพบอาการบวมนานขึ้น ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่คุณได้รับและสภาพผิวของคุณ ผู้ป่วยที่มีไขมันจำนวนมากอาจมีอาการบวมมากขึ้น
กว่าจะเห็นผล ใช้เวลานานแค่ไหน
ผลลัพธ์ไม่ได้เห็นทันทีหลังฉีดนะค่ะ ผลของการฉีดแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่า และดีขึ้นเรื่อยๆ จน 1 เดือน ผลจะอยู่ได้นานเท่าไรจากงานวิจัยพบว่าเซลล์ไขมันที่ถูก “กิน” หรือละลายโดยการฉีด Fat bra จะไม่กลับมาอีก แต่ก็ต้องขึ้นกับการดูแลร่างกายของเราด้วย หากเราควบคุมไม่ให้น้ำหนักขึ้นอีก มันก็จะไม่กลับมาอีกเลยค่ะ ถือว่าผลที่ได้คุ้มค่าต่อการเจ็บเลยทีเดียว
ข้อดีของการฉีดสลายไขมันมีอะไรบ้าง?
- ไม่เจ็บตัวเหมือนการดูดไขมัน และแผลเล็กมากทำให้ไม่เสี่ยงต่อการติดเชื้อต่างๆ
- สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกายโดยไม่มีผลข้างเคียงใดใด
- สะดวกเพราะใช้เวลาน้อยขั้นตอนไม่ซับซ้อนและสามารถเลือกฉีดเฉพาะบริเวณที่ต้องการได้
- ไขมันกลับมายากเพราะถูกขับออกโดยปัสสาวะและเหงื่อแล้ว
- เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด ไขมันลดลง 60%-90%
- ผิวกระชับและไม่หย่อนยานเนื่องจากมีตัวยาผสมในตอนฉีด
- เหมาะสำหรับคนที่กลัวการผ่าตัด
- เหมาะสำหรับไขมันที่ลดยาก ไขมันบริเวณที่ฉีดจะค่อยๆ ยุบเอง ไม่เป็นคลื่น หรือไม่เป็นรอยบุ๋มของผิวให้ต้องหงุดหงิดใจ
ดูแลตัวเองยังไง หลังฉีดสลายไขมัน
- ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ2 ลิตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตัวยาที่ฉีดเข้าไปเพื่อเร่งการขับไขมันออกจากร่างกายได้ดีมากขึ้น
- ควรออกกำลังกายเบาๆ เพื่อให้เหงื่อออกได้ดีมากขึ้นเช่นโยคะ แอโรบิค อย่างน้อยวันละ30 -45 นาทีต่อวัน
- หลังฉีดอาจพบอาการบวมช้ำหรือเจ็บปวดบ้างหลังทำซึ่งถือเป็นปกติและจะหายไปเองภายใน1-2 วัน
- ควรนวดคลึงบริเวณที่ฉีดหลังฉีดเสร็จทันทีเพื่อให้ตัวยากระจายตัวและออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น
- ควรปรับเปลื่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารเพื่อควบคุมไม่ให้ไขมันกลับมาสะสมได้อีกไม่จำเป็นต้องอดอาหาร หรือทานยานะค่ะ เอาแค่เลี่ยงพวกไขมัน แป้งในตอนดึกๆ ก็พอ และการสลายไขมัน ไม่ว่าจะวิธีไหน ไม่ได้แปลว่าไขมันจะกลับมาไม่ได้นะค่ะ เพราะฉะนั้นต้องระวังเรื่องอาหารควบคู่กันไปด้วยค่ะ
ภาพก่อนและหลังการรักษา
หลังการฉีด 1 ครั้ง (ผลขึ้นกับแต่ละบุคคล)