HIFU – Ultra Lift ที่สุดแห่งการยกกระชับ

HIFU – Ultra Lift ที่สุดแห่งการยกกระชับ

นวัตกรรมยกกระชับแข่งขันกันรุนแรงมาก และเมื่อพูดถึงเรื่องการยกกระชับ อีกตัวที่เราจะลืมไม่ได้ คือ

HIFU ย่อมาจากภาษาอังกฤษ High Intensity Focus Ultrasound คือการนำคลื่นเสียงความถี่สูง ที่สามารถปล่อยคลื่นโดยโฟกัสเป็นจุดๆ ผ่านเนื้อเยื้อลงลึกถึงโครงสร้างเนื้อเยื่อชั้นลึก (SMAS) แล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน จะทำให้เส้นใยผังผืดหดกลับ กระชับตึงขึ้น กระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์เซลล์

 

ผลก็คือทำให้เกิดกระบวนการเสริมสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ของร่างกาย และจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจนครับ

พูดให้เข้าใจมากขึ้นคือ คลื่นอัลตราซาวด์ที่ถูกโฟกัส การปล่อยพลังงานออกมาเฉพาะจุด และแต่ละจุดก็มีพลังงานสูงพอที่จะลงไปถึงเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึก SMAS ได้ครับ ซึ่งหลักการ High Intensity Focus Ultrasound นับเป็นนวัตกรรมเดียวที่สามารถทำงานลงลึกถึงผิวหนัง ชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้าเลยครับ

ด้วยหลักการการส่งผ่านความร้อน HIFU นี้ ทำให้เกิดรอยหดตัวในชั้น SMAS ขนาดประมาณ 1 มม. คล้ายกับการเย็บเนื้อใต้ผิวหนัง ให้เป็นจุดห่างกัน1 มม. เรียงเป็นแนวต่อเนื่องแบบการเย็บ และละเอียดกว่าการร้อยไหม และที่สำคัญยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผลลัพธ์จะค่อยๆ ดีขึ้นๆ อีกใน 1-2 เดือน และเห็นผลอย่างชัดเจนต่อเนื่อง เป็นเวลาสองถึงสามเดือนขึ้นไป รวมถึงจะได้ผลดียิ่งขึ้น เมื่อทำซ้ำอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี

 

สำหรับความร้อนที่ส่งผ่าน คลื่นจะเป็นอุณหภูมิที่ 65 – 70 องศา ซึ่งอยู่ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการสร้างคอลลาเจนของผิว

 

 

HIFU – ULTRA LIFT ส่งพลังงานลงลึก ถึง 3 ระดับ

การที่ Ultra Lift ส่งพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวน์ลงลึกถึง 3 ชั้นผิวของใบหน้า ด้วยหัว Tip ที่แตกต่างกัน 3 ระดับ และอุณหภูมิที่เหมาะสมในแต่ละบริเวณที่ทำ ด้วยหลักการนี้ ทำให้ทุกชั้นผิวที่ได้รับการส่งพลังงานจะถูกยกขึ้น พร้อมๆ กัน เปรียบเสมือนการศัลยกรรมดึงหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัดเลยครับ

 

ภาพแสดงระยะของการลงลึกถึงชั้นผิวได้ 3 ระดับ

 

  •  ส่งพลังงานลงลึกระดับ 4.5 mm.  ไปยัง ชั้นกล้ามเนื้อส่วนบน (SMAS) ปรับโครงสร้างให้เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อส่วนบนเกิดการเรียงตัวในแนวเดียวกันให้ผิวยกกระชับขึ้น

  •  ส่งพลังงานลงลึกระดับ 1.5 mm.  ไปยัง เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (Superficial Dermis)  และ ระดับ 3.0 mm.  ไปยัง เนื้อเยื่อผิวหนังชั้นลึก (Deep Dermis) กระตุ้นการทำงานของคอลลาเจน และ เส้นใยอีลาสติน เพื่อคงดุลยภาพของผิวหนัง ลดเลือนริ้วรอย ฟื้นฟูผิวท่เสื่อมสภาพ ให้กลับสู่สภาพปกติ ดูอ่อนเยาว์ขึ้น

 

 

 

Q : HIFU – ULTRA LIFT เหมาะกับใคร ?  สามารถรักษาปัญหาอะไรได้บ้าง?

A: เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวทุกคน ซึ่งทรีทเม้นต์ Ultra Lift สามารถรักษาปัญหาผิวได้ครอบคลุมตามนี้ครับ

  • ริ้วรอยใต้ตา หางตา
  • ริ้วรอยหน้าผาก
  • ปรับโครงหน้า
  • ปรับกรอบหน้า
  • ปรับหน้าเรียว
  • ยกคิ้ว
  • ยกหนังตา
  • ร่องแก้ม
  • มุมปาก
  • คางสองชั้น
  • รอยเหี่ยวย่น บริเวณลำคอ
  • เหนียง
  • ผิวหน้าที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อย ไม่เรียบ
  • รูขุมขนไม่กระชับ

Q: ปัญหาพวกนั้น ก็ใช้วิธีอื่นได้ ทำไมต้อง HIFU ต่างจากเครื่องมืออื่นๆอย่างไร

A: แต่ละวิธีก็แตกต่างกันไปครับ ถ้าเทียบกับทรีทเม้นต์อื่นๆ แล้ว  HIFU ก็มีข้อดีหลายอย่าง

  • เพราะ HIFU ช่วยยกกระชับผิวได้ที่เนื้อเยื่อเหนือกล้ามเนื้อ (SMAS) ซึ่งเทคโนโลยีอื่น ๆ ในปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้ ยกเว้นการทำศัลยกรรมเท่านั้นครับ
  • วิธีนี้ละเอียดกว่าร้อยไหม เพราะคลื่นอัลตราซาวน์ สามารถลงไปทำงาน ครอบคลุมพื้นผิวมากกว่า การร้อยไหม
  • ได้ผลการรักษาที่แน่นอนกว่า เพราะหมอสามารถกำหนดความลึกจากหัว tip แต่ละระดับได้อย่างแม่นยำ
  • การรักษาไม่เจ็บ อาจทาหรือไม่ทายาชาก็ได้ (แนะนำให้ทา เพื่อความสบายในขณะทำทรีทเม้นต์) ระหว่างทำไม่ทรมาน ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีรอยแดง  ไม่บวม ไม่ช้ำ ไม่เกิดรอยแผล ไม่มีรอยไหม้ หลังรักษาสามารถทำกิจกรรมตามปกติได้เลย และแต่งหน้าได้เลยทันทีครับ
  • ปล่อยพลังงานได้อย่างรวดเร็ว ลงลึก และ แผ่กว้าง ทำให้พลังงานถูกส่งลงสู่ผิวได้อย่างตรงจุด โดยมีระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ที่เหมาะสมต่อบริเวณที่ทำ จึงไม่ทำลายของเนื้อเยื่อโดยรอบ
  • ผลการรักษาจะดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนด้วย ถ้าเทียบกับพวก Toxin หรือฟิลเลอร์ที่ผลการรักษาจะค่อยๆ ลดลง
  • สามารถรักษาร่วมกับทรีทเม้นต์ อื่นๆ ได้ เช่นผู้ที่เคยผ่านการฉีดฟิลเลอร์หรือการร้อยไหมมา ก็สามารถทำ HIFU ได้เช่นกัน เนื่องจากเทคโนโลยีชนิดนี้ จะส่งผลต่อเซลล์ผิวชั้นลึก ซึ่งเป็นคนละชั้นกับกลุ่ม ฟิลเลอร์ Toxin หรือพวกไหม เพียงแค่ควรเว้นระยะ 1-2 เดือน แล้วค่อยรักษาด้วย HIFU ก็จะยิ่งทำให้ใบหน้าดูกระชับ ได้รูปและช่วยเสริมให้เกิดการรักษาตัว ให้หายเร็วขึ้นครับ

 


รูปเปรียบเทียบพลังงานของทรีทเม้นต์แต่ละประเภท

 

Q:  ผลจากการรักษา HIFU – ULTRA LIFT ?

A:  ผลของการทำขึ้นกับสภาพโครงสร้างผิวและใบหน้าแต่ละคนด้วยครับ เพราะผลที่ได้คือการกระตุ้นการสร้าง collagen คุณจะเห็นผลจากการทำตั้งแต่ครั้งแรก ประมาณ 20% – 30% และจะค่อยๆ เห็นผลการรักษาเรื่อยๆ  เนื่องจากเนื้อเยื่อและคอลลาเจนใหม่ จะเกิดขึ้นสมบูรณ์หลัง 1-3 เดือน และจะเห็นผลอย่างชัดเจน อย่างต่อเนื่อง หลังการรักษาประมาณ 1-3 เดือน ผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปีครับ

 

เพื่อผลการรักษาที่ดีขึ้น และน่าพอใจมากที่สุด ควรทำซ้ำ ทุก 6 เดือน

** จากการสอบถามผู้ที่ใช้บริการจริง สำหรับทรีทเม้นต์ eyebrow lifting พบว่า 9 ใน 10 คนที่ได้รับการรักษา จะสามารถรับรู้ถึงผลการรักษาอย่างชัดเจนว่า คิ้วยกขึ้น ทำให้ดวงตาดูโตขึ้น เพิ่มความอ่อนเยาว์บนใบหน้า นอกจากนี้แล้วยังรู้สึกว่าผิวตึง รูขุมขนเล็กลง ผิวยกกระชับ เรียบเนียนขึ้นทั้งบริเวณหน้า และคอ โดยไม่ต้องทำศัลยกรรม

 

Q: HIFU ปลอดภัยหรือเปล่า ?

A:  เทคโนโลยีอัลตร้าซาวด์ได้ถูกนำมาใช้ในการรักษาทางการแพทย์มานานกว่า 50 ปี และมีการใช้ HIFU โดยแพทย์ผิวหนัง ทั่วโลกมามากกว่า 3,000 ราย พบว่ามีความปลอดภัยสูง และเป็นที่ยอมรับถึงประสิทธิภาพและผลการรักษาอย่างมาก ที่สำคัญตัวเครื่องผ่านการรับรองมาตรฐาน อย เรียบร้อยแล้ว

 

Q : ได้ยินมาว่าคลื่น ULTRASOUND ทำให้เกิดมะเร็ง

A : ไม่เกิดแน่นอน หลายคนคงสับสนเพราะจริงๆ คลื่นที่ทำอันตรายต่อผิวนั้นเป็นultraviolet ไม่ใช่ ultrasound และจริงๆ แล้วคลื่น ultrasound มีใช้มานานมากกว่า 50 ปี แล้ว และที่เรารู้จักกันดี คือใช้เพื่อตรวจครรภ์ เพราะฉะนั้นมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ได้เลยครับ

Q : หยุดทำแล้วเหี่ยวเพิ่มเลยไหม

A : ไม่ครับ จริงๆ การดูแลผิวก็เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าหยุด ร่างกายก็ยังแข็งแรงจากการออกกำลังกายที่ผ่านมา แล้วก็ค่อยๆ อ่อนแอลง เช่นเดียวกัน หลังการทำ  Ultra Liftแล้วภายใน 1 ปี ถ้าไม่ได้ทำซ้ำเลย ผิวก็จะเริ่มกระบวนการเสื่อมตามปกติของร่างกายครับ

Q : ควรทำช่วงอายุเท่าไร

A : เริ่มอายุเท่าไรก็ได้ครับ ถ้ารู้สึกผิวหย่อนคล้อยก็สามารถทำได้ครับ เพราะไม่มีอันตรายใดๆ  ถ้าจะให้ตอบว่าไม่ควรทำอายุเท่าไรจะง่ายกว่า หมอขอตอบว่าคือกลุ่มวัยรุ่น 18-28 อาจจะยังไม่ควรทำ Ultra Lift เพราะยังไม่มีปัญหาผิวที่แท้จริง ที่จริงแล้วกลุ่มนี้จะเห็นผลดีนะครับ เพราะผิวยังแข็งแรง แต่ที่ไม่แนะนำเพราะมักจะไม่พบปัญหาผิวอะไรชัดเจน ยังไม่เหี่ยว ยังไม่มีริ้วรอย ผลจากการรักษาก็เลยยังไม่เห็นชัดเจน อีกกลุ่มที่หมอไม่แนะนำเลยคือกลุ่มอายุ 50 ขึ้นไป เนื่องจากกลุ่มนี้ ผิวในชั้น SMAS จะไม่แข็งแรงแล้ว เมื่อทำทรีทเม้นต์ก็จะไม่เห็นผลเท่าที่ควรครับ เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้ผิวมีปัญหา หย่อนคล้อยมากๆ แล้วค่อยมารักษานะครับ

แต่ช่วงอายุที่หมอแนะนำ และเป็นกลุ่มที่น่าจะเห็นผลการรักษาที่ดีมากคือ ช่วงอายุ 30-45 เพราะกลุ่มนี้ ผิวชั้น SMAS ยังมีความแข็งแรง ไม่หย่อนมากเกินไปครับ เมื่อทำทรีทเม้นต์ Ultra Lift แล้วผิวจะตอบสนองดีครับ

Q : ระยะเวลาในการรับบริการ ULTRA LIFT

A : 30 – 60 นาที โดยประมาณ ขึ้นกับบริเวณที่ทำ และปัญหาผิวของแต่ละท่านครับ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมอแนะนำให้ทำปีละ 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างจากการทำครั้งแรกอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมที่ผิวได้รับการกระตุ้นให้เกิดการเรียงตัวของคอลลาเจน และ อีลาสตินใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

 

Q : หลังการทำจะรู้สึกอย่างไร

A : ผิวอาจจะเกิดอาการแห้ง หรือ ลอกบ้างเล็กน้อย ถือว่าเป็นเรื่องปกติครับ หลังการทำ Ultra Lift ควรดื่มน้ำมากๆ ทาครีมบำรุงให้ชุ่มชื้น และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ตั้งแต่ 30 ขึ้นไปครับ

 

Q : ต้องดูแลผิวอย่างไร หลังการทำ ULTRA LIFT

A : ผิวอาจแดง หรือลอกบ้างเล็กน้อย หากมีอาการปวด ก็ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ครับ
หลังทำ HIFU ควรเว้นการนวดหน้า หรือถูผิวหน้าแรงๆ
หลังการทำ HIFU ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ เพราะเป็นตัวการหลักที่ทำลาย คอลลาเจนครับ
หลักการทำ HIFU สามารถทำทรีทเม้นต์อื่นๆ ได้ทันทีครับ เช่น การฉีด toxin การฉีดฟิลเลอร์ การฉีดเมโส เพราะมันอยู่คนละชั้นผิวครับ
แต่หลังการฉีด Toxin ฟิลเลอร์ หรือเมโส ให้เว้นการทำ HIFU ไปก่อนประมาณ 1 เดือนครับ เพราะ HIFU มีเรื่องความร้อนเข้ามาเกี่ยวข้องอาจทำให้สารที่ฉีด สลายไปเร็วขึ้นครับ

Q : ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ ULTRA LIFT

A : ผู้ที่เป็นสิวขั้นรุนแรง หรือสิวอักเสบเรื้อรัง ควรรักษาสิวให้หายก่อนครับ

 

 

รูปก่อนและหลังทำทรีทเม้นต์ Ultra Lift

 

THE FACE AESTHETIC

เดอะเฟส เอสเทติก คลินิก เวชกรรม ความงาม

Anti Aging ปรับรูปหน้า ฉีดผิวขาว รักษาฝ้ากระ

ด้วยทีมแพทย์มืออาชีพ เพราะความสวยต้องมาพร้อมความปลอดภัย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม @thefaceaesthetic

กรุณา Add Line
@thefaceaesthetic
เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการ Booking

ปรึกษาเรื่องความงาม
โทร.
02 712 2334
จองคิวโปรแกรมรักษา

เชื่อมต่อเราเพิ่มเติมได้ที่ @thefaceaesthetic