Fire & Ice
เป็นทรีทเม้นต์ที่เหมาะกับการรักษาฝ้า สามารถช่วยในเรื่องการกระชับรูขุมขน และช่วยให้สิวฝ้า รอยดำจางลงอย่างรวดเร็ว ช่วยรักษาริ้วรอยเล็กๆ สามารถทำได้กับทุกช่วงอายุ
หลักการทำงานของFire & Ice
Fire เป็นการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนสุด ช่วยทำให้เซลล์ที่ตายแล้วหลุดลอกออกมา กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนทำให้ผิวเรียบเนียนและฟื้นฟูผิวจากการที่ถูกแสงแดดทำลายช่วยลดรอยดำหลังการผ่าตัดหรือจากบาดเจ็บที่ผิวหนัง
โดยส่วนประกอบหลักๆมีกรด alpha และ beta hydroxy กลุ่มกรดผลไม้ AHA ผลไม้ซิตรัสและ BHA จาก Willow Bark Extract (Salix Alba) และ kojic acid ช่วยต้านเชื้อแบคมีเรีย ต้านอนุมูลอิสระ และพิเศษยิ่งกว่านั่นช่วยทำให้หน้าขาวใสกระจ่างขึ้น
Ice เป็นการ cool down ผิวหลังการทำทรีทเม้นต์ Fire แล้ว โดยจะปรับอุณหภูมิผิวลงอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับ -3 องศา ด้วยอุณหภูมิระดับนี้ ทำให้ผิวเปิด รูขุมขนจะถูกกระตุ้นให้เปิดรับสารอาหาร และเราจะเติมอาหารผิวให้ในขั้นตอนนี้ (เหมาะกับผู้ที่เป็นฝ้าหรือกระเพราะผิวไม่จำเป็นต้องเจอความร้อนของเครื่องRF แบบเก่าเพื่อที่จะผลักวิตามินลงสู่ผิว)
ขั้นตอนการทำFire & Ice (การบำรุงผิวหน้า7 ขั้นตอนโดยผู้ชำนาญการ)
- ทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดด้วยCleansing removal cream
- ในกรณีที่มีสิวกดสิวก่อนทุกครั้ง
- ผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวFire ทิ้งไว้5 นาที
- ครบเวลาเช็ดออกฉีดน้ำแร่ซับให้แห้ง
- ทำทรีทเม้นต์Ice ต่อเนื่องโดยการปรับอุณหภูมิให้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงระดับ-3 องศา
- ลงอาหารผิวบำรุงและเพิ่มความแข็งแรงให้ผิว
- ล้างทำความสะอาดผิวอีกครั้งสเปรย์น้ำแร่ทาครีมบำรุงลดการอักเสบของผิวทาครีมกันแดด
ควรทำต่อเนื่องกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
ควรทำต่อเนื่อง4-6ครั้งเพื่อผลการรักษาทีชัดเจน
ต้องใช้เวลาพักผิวหลังทำนานไหม
ไม่มีช่วงต้องพักฟื้นผิวเลยอาจมีการหลุดลอกของผิวได้บ้างเล็กน้อยถึงปานกลางแต่ละคนมีการตอบสนองหลังทำที่ต่างกันแต่ส่วนใหญ่เป็นการลอกเพียงเล็กน้อยถึงปานกลางส่วนมากผิวจะเป็นขุยหรือรอยแดงๆใน2-3วันแรก
หลังทำต้องดูแลผิวอย่างไร
ห้ามแกะหรือดึงสะเก็ดขุยออกปล่อยให้ลอกออกเองตามธรรมชาติสามารถกลับไปทำงานได้เลย(บางท่านผิวไม่ลอกแต่อย่างไรอาจมีรอยแดงๆได้) ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงความร้อนที่มากเกินและแสงแดดที่จัดแนะนำควรทากันแดดSPF 50 ขึ้นไป
สามารถทำบริเวณไหนได้บ้าง
สามารถใช้ได้ทุกส่วนของร่างกาย เพราะมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในเรื่องความเรียบเนียนของผิวดีขึ้น บางส่วนของร่างกายอาจไวต่อ Fire treatment ต่างกัน เพราะแต่ละที่มีความหนาของผิวต่างกันซึ่งขึ้นอยู่กับความเห็นของแพทย์ที่ทำการรักษา
การทำFire & Ice ต่างจากพวก Glycolic peel ยังไง
Glycolic acid ทำให้ผิวแห้งสูญเสียน้ำและระค่ายเคืองต่อผิวและอาจทำให้รูขุมขนกว้างขึ้นหลังการใช้เป็นเวลานานแต่ทรีทเม้นต์Fire เป็นกลุ่มใกล้เคียงกับLactic acid (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผิวNMF Nature Moisturizing Factor (NMF), Citric acid (ซึ่งช่วยทำให้รอยดำจางและAged spot ดีขึ้น) และWillow Bark Extract (Salix Alba) ซึ่งช่วยควบคุมการทำงานของต่อมไขมันลดหน้ามันและการอักเสบนอกจากนี้ยังช่วยลดรอยดำหลังการอักเสบหรือจุดด่างดำจากสิวช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มสว่างสดใส
ปัญหาแบบไหนที่เหมาะกับทรีทเม้นต์ Fire & Ice
ทุกปัญหาที่มีลักษณะโทนผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น ฝ้า รอยดำ รอยแดงจากสิว ผิวไหม้จากแสงแดด สีผิวเปลี่ยนจากฮอร์โมน หรือสารเคมี หรือยาบางอย่าง อายุมากขึ้นเม็ดสีจะเพิ่มขึ้น ริ้วรอยมากขึ้น รูขุมขนไม่กระชับ ผิวดูหมองคล้ำ ปัญหาพวกนี้สามารถรักษาได้ด้วย Fire & Ice
ถ้าคุณมีประวัติดังต่อไปนี้ไม่ควรทำFire & Ice
- ทานยากลุ่มวิตามินเอ(Isotretinoin)ในช่วง6เดือนที่ผ่านมา
- เป็นเริม หรือเป็นหูดบริเวณที่จะทำ
- กำลังตั้งครรภ์
- เป็นรอยแผลเป็นนูนง่าย
- ประวัติโรคผื่นแพ้แดด
- เพิ่งได้รับการรักษาด้วยวิธีผลัดเซลล์ผิวมา
- เพิ่งได้รับสัมผัสแสงแดดปริมาณมากหรือไหม้จากแสงแดดในช่วง2 วันที่ผ่านมา
- เพิ่งได้รับการรักษามะเร็งด้วยการฉายแสง
- การผ่าตัดหรือใช้ไอเย็นจี้, IPLหรือการรักษาด้วยเลเซอร์ในเดือนที่ผ่านมา