ออกกำลังกายตอนไหนดีที่สุด
มักมีคนถามเรื่องช่วงเวลาของการออกกำลังกายที่ดีที่สุดอยู่เสมอๆ นะค่ะ บางท่านก็บอกว่าตอนเช้า บางท่านก็บอกว่าตอนเย็น ถ้าจะให้ตอบอย่างเป็นหลักการคงต้องอธิบายอย่างนี้ค่ะ
การออกกำลังกายจำเป็นต้องใช้พลังงาน เพื่อการเคลื่อนไหวของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อ แขน ขา ซึ่งพลังงานที่ว่านี้เราก็ได้มาจากการทานอาหารนั่นเอง ซึ่งโดยปกติหลังการกินอาหารอิ่มเต็มที่ ร่างกายยังไม่สามารถนำพลังงานไปใช้ได้ทันที ร่างกายต้องการเวลาในการย่อยที่กระเพาะ และลำไส้ ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หลังจากนั้นอาหารถูกดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือด ร่างกายก็จะจ่ายพลังงานไปยังส่วนต่างๆ ซึ่งถึงตอนนี้ ถ้าออกกำลังกายหนักๆ เชิ่นการวิ่ง เลือดก็จะมาเลี้ยงที่ขามากกว่าส่วนอื่นๆ ดังนั้น บางคนที่ออกกำลังกายแล้วรู้สึกวิงเวียน หน้ามืด เหมือจะเป็นลม ก็เกิดจากเลือดไหลไปเลี้ยงอวัยวะที่คุณกำลังใช้งานอยู่มากกว่าที่ไปเลี้ยงสมอง เลี้ยงเนื้อหัวใจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นเหตุให้กล้ามเนื้อตายเฉียบพลันจนอาจทำให้เสียชีวิตได้ ดังนั้นจึงไม่ควรออกกำลังกายหลังการกินอาหารเสร็จใหม่ๆ ควรรอสัก 2-3 ชม. เพื่อให้อาหารถูกดูดซึมเข้าร่างกายก่อนค่ะ
ทีนี้สำหรับคนที่ออกกำลังกายตอนเช้า ร่างกายยังสดชื่นเพราะได้พักมาทั้งคืน แต่ส่วนน้อยที่จะทานอาหารก่อนมาออกกำลังกาย หลายท่านจะทานอาหารเย็นแล้วก็เข้านอน ร่างกายก็จะไม่ได้ใช้พลังงานตรงนี้ แต่ตับจะปรับเปลี่ยนสารอาหาร เช่น น้ำตาลเปลี่ยน เป็นไกลโคเจน ไตรกรีเซอร์ไรด์ ไขมันเปลี่ยนเป็นกรดไขมัน โปรตีนเปลี่ยนเป็น ฟอสฟาเจน เป็นต้น แล้วนำไปเก็บไว้ในอวัยวะต่าง ๆ เมื่อตื่นนอนจึงไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ ในเลือดแต่ตับจะดึงสารอาหารที่ปรับเปลี่ยนไปเก็บไว้ในที่ต่างๆ ตอนหลับ ให้เป็นสารพลังงานในเลือดใหม่ จึงสามารถออกกำลังกายได้ มาลองคิดดู ตอนนอนตับทำงานหนักมาก เพื่อเอาสารอาหารไปเก็บในอวัยวะต่างๆ แล้วตอนตื่นตับก็ยังต้องทำงานหนักอีกรอบเพื่อเปลี่ยนพลังงานกลับมาเป็นเลือดใหม่ ซึ่งถ้าออกกำลังกายทุกวัน นั่นหมายถึงว่าตับต้องทำงานมาก แทบไม่ได้พักเลย ซึ่งในระยะยาว ก็อาจจะทำให้ในตับมีแต่ไขมัน และกลายเป็นตับแข็งได้
ดังนั้นถ้าจะทำให้ถูกต้องก็ควรจะต้องทานอาหารเสียก่อน แล้วรอ 2 ชม เป็นอย่างต่ำจึงไปออกกำลังกายได้ หรือเน้นการออกกำลังกายเบาๆ แทนเช่นการเดินจ๊อกกิ้ง หลังจากทานอาหารเบาๆ เช่น ข้าวต้ม 1 ถ้วย โอวัลติน 1 แก้ว เป็นต้น
แล้วลองมาดูคนที่ออกกำลังกายตอนเย็นกันค่ะ เรารู้อยู่แล้วว่า เราทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น 3 มื้อใน 1 วัน พลังงานเรามีเหลือเฟือ สามารถออกกำลังกายได้เลยทันที และดียิ่งขึ้นถ้าออกกำลังกายแล้วไม่ทานอะไรแล้ว แค่ดื่มน้ำก็จะรู้สึกไม่หิวแล้วค่ะ เพราะจริงๆ ตอนเย็นเราไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานในการนอนหลับ จึงไม่จำเป็นต้องเติมพลังงานเข้าไปเลย และจะไม่ทำให้อ้วน ไม่มีอาหาร ไม่มีไขมันเหลือค้างในหลอดเลือดทำให้ลดคอลเลสเตอรอลไปในตัว จากงานวิจัยของอเมริกาเมื่อ 2 ปีที่แล้วพบว่า การออกกำลังกายตอนเช้านั้น จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายลดลง และการออกกำลังกายตอนเย็น จะทำให้ภูมิต้านทานในร่างกายเพิ่มขึ้น
ลองนำไปปรับดูนะคะ ว่าเข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราหรือไม่ หมอคิดว่าน่าจะเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์กับทุกท่านนะคะ