ทำเว็บไซต์ให้รองรับ PDPA ใน 3 นาที ด้วยปลั๊กอิน Designil PDPA โค้ดเบาเว็บไม่อืด

Designil PDPA คือ หนึ่งในสุดยอด WordPress Plugins สำหรับการทำให้เว็บไซต์ของคุณรองรับ PDPA ใน 3 นาที

Link : Designil PDPA

จุดเด่น 3 ข้อ

1. ติดตั้งและใช้งานง่ายมากๆ


โดยทีมงาน Designil ได้ร่วมกันศึกษา ค้นคว้าข้อมูลและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้าน PDPA แล้วได้ลงมือจัดทำระบบนี้ขึ้นมา ทำให้ใช้งานง่ายและใช้งานได้จริง 

2. เว็บไม่อืด

ตัวโค้ดเบามาก เมื่อวัดความเร็วเว็บไซต์ โหลดเร็วจนแทบไม่รู้สึกว่าได้ติดตั้งโค้ดเข้าไปแล้ว ทีมงานได้ทำการออกแบบโค้ดมาอย่างดีสำหรับตัว Designil PDPA ซึ่งไม่มีการใช้งาน Jqurey ที่เป็นส่วนทำให้โหลดเว็บช้า

3. ราคาถูกมาก

ราคาถูกมากๆ เมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นการใช้งานและค่าใช้จ่ายในการรีเสริชข้อมูลเพื่อทำมาทำ Plugin สำหรับ Designil PDPA นั้นมีราคาเริ่มต้นที่ 990 บาท ต่อเว็บไซต์ ยิ่งซื้อแพ็คเกจใหญ่ ยิ่งลดเยอะ
Link : ดูราคาทั้งหมด

ระบบที่ต้องการ

  • PHP – 7.0 (or later)
  • Database – MariaDB – 10.1 or later / MySQL – 5.7 or later
  • WordPress 5.7 or higher
  • Browser – Chrome, Firefox, Safari

การติดตั้ง

เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้ว สามารถเข้ามายัง ลิงก์นี้

  • คลิกที่ลิงค์ View Details and Downloads
  • เลื่อนลงมาด้านล่าง จะพบ Products สามารถ คลิกดาวน์โหดลดที่ชื่อไฟล์

หลังจากนั้นไปยังเว็บไซต์ของคุณ และทำตามขั้นตอนดังนี้

  • ไปยังเมนู Plugins > Add New
  • ด้านบนจะพบคำว่า “Add Plugins” ถัดไปด้านขวามีปุ่ม “Upload Plugin” ให้คลิกเพื่อเข้าไป
  • เมื่อเข้ามายังหน้าแล้วให้เลือก “Choose File” จากนั้นอัพโหลด zip file ที่ได้จากทางเราหลังจากนั้นคลิกปุ่ม “Install Now”

เมื่ออัพโหลดไฟล์เสร็จเรียบร้อยแล้ว

  • ไปยังเมนูหน้า Plugins แล้วคลิก Activate ปลั๊กอิน “Designil PDPA”
  • จากนั้นท่านจำเป็นจะต้อง Activate License สามารถอ่านต่อวิธีการ Activate License

หลังจากการติดตั้งเรียบร้อย Plugin จะทำการสร้างหน้า นโยบายความเป็นส่วนตัว ให้อัตโนมัติ

การตั้งค่า

General

เปิดใช้งาน Designil PDPA : ใช้สำหรับเพื่อเปิดใช้งาน Designil PDPA โดยจำเป็นจะต้อง Activate License ก่อน

แสดง ปุ่มตั้งค่า : จะแสดงที่ด้านขวาของ Popup เมื่อกดแล้วจะเรียก Sidebar เพื่อแสดงรายการคุกกี้

แสดง ปุ่มปฏิเสธ : จะแสดงที่ด้านขวาของ Popup เมื่อกดแล้วจะทำหน้าที่เหมือนกับปุ่มกดปิด

รีเซ็ทคุกกี้ ID : ใช้สำหรับในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลง ข้อตกลง รายละเอียด เงื่อนไข ของนโยบายส่วนบุคคล หรือคุกกี้ ทำให้ผู้ใช้ที่ได้กดยอมรับ หรือปฏิเสธไปแล้ว จะทำให้ Popup นี้แสดงใหม่อีกครั้ง

ระยะเวลาคุกกี้ : สามารถกำหนดระยะเวลาของคุกกี้เมื่อผู้ใช้กดยอมรับ ไม่ยอมรับ หรือกดปิด จะไม่แสดงภายในระยะเวลาคุกกี้ที่กำหนด โดยมีหน่วยเป็นวัน โดยค่าเริ่มต้นจะเป็น 7 วัน

Messages

หน้า Policy : เลือกเพื่อให้ลิงก์ใน Shortcode redirect ไปยังหน้าของ Policy

ข้อความ ขอความยินยอม : เป็นข้อความใช้สำหรับอธิบาย หรือขอความยินยอมจากผู้ใช้งาน จะแสดงใน Popup เริ่มต้น ของระบบในหน้าบ้าน และสามารถแทรก Shortcode เพื่อให้ลิงค์ไปยังหน้า Policy หรือเรียก Popup ได้ตาม Info ที่อยู่ด้านล่าง

ข้อความใน Sidebar : เป็นข้อความที่แสดงใน Sidebar ภายใต้หัวข้อ “ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว” จะใช้อธิบายเกริ่นนำ ก่อนที่จะให้ผู้ใช้ “จัดการความเป็นส่วนตัว” ของตนเอง

Cookies

คุกกี้คืออะไร ?

เอชทีทีพีคุกกี้ (อังกฤษ: HTTP cookie) นิยมเรียกว่า เว็บคุกกี้ หรือ คุกกี้ หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่ถูกส่งจากเว็บเซิร์ฟเวอร์มายังเว็บเบราว์เซอร์ และถูกส่งกลับมายังเว็บเซิร์ฟเวอร์ทุกๆครั้งที่เว็บเบราว์เซอร์ร้องขอข้อมูล โดยปกติแล้วคุกกี้จะถูกใช้เพื่อจัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กๆไว้ที่เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อให้เว็บเซิร์ฟเวอร์สามารถจดจำสถานะการใช้งานของเว็บเบราว์เซอร์ที่มีต่อเว็บเซิร์ฟเวอร์

ตัวอย่างการใช้งานคุกกี้เช่น ใช้เพื่อจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้ เวลาที่ผู้ใช้เข้าเว็บครั้งล่าสุด ข้อมูลสินค้าที่ผู้ใช้เลือกไว้ ข้อมูลในคุกกี้เหล่านี้ ทำให้เว็บไซต์สามารถที่จะจดจำผู้ใช้ได้ แต่ไม่สามารถส่งคำสั่งมาประมวลผล หรือส่งไวรัสคอมพิวเตอร์ผ่านคุกกี้ได้ และมีเพียงเซิร์ฟเวอร์ที่สร้างคุกกี้นั้นๆ เท่านั้นจึงจะสามารถอ่านค่าของคุกกี้ดังกล่าวได้

Ref: https://th.wikipedia.org/wiki/เอชทีทีพีคุกกี้

คุกกี้ที่จำเป็นคืออะไร ?

เป็นคุกกี้ที่ระบบหรือเว็บไซต์ของคุณขาดไม่ได้ ถ้าหากไม่มีตัวคุกกี้นี้ระบบจะไม่สามารถทำงานได้ เป็นคุกกี้ที่ได้รับการยกเว้น ที่ไม่จำเป็นต้องขอความยินยอมจากผู้ใช้ เมื่อใช้งานในเว็บไซต์ของเรา เช่น Plugin WooCommerce จำเป็นจะต้องใช้ คุกกี้ Cart เพื่อจำเป็น

หัวข้อ คุกกี้ที่จำเป็น : หัวข้อของคุกกี้ที่จำเป็น โดยระบบจะมีข้อความเริ่มต้นมาให้แล้ว

รายละเอียด คุกกี้ที่จำเป็น : เพื่ออธิบายของคุกกี้ที่จำเป็นที่ใช้ในระบบของคุณ มีอะไรบ้าง

รายการคุกกี้

รายการคุกกี้ทำมาเพื่อแสดงรายละเอียดของคุกกี้ที่ใช้ในเว็บไซต์ เพื่ออธิบายว่าจะนำไปประมวลผลอะไร และขอความยินยอมก่อนทำการเก็บข้อมูลซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำเมื่อกฎหมาย PDPA ได้ถูกบังคับใช้ โดยทางเราได้ออกแบบมาให้คุณสามารถจัดกลุ่มประเภทของคุกกี้ และเพิ่ม/ลด จัดเรียงลำดับเองได้ โดยช่องข้อมูลที่มีมาให้

โดยรายละเอียดจะแสดงใน Sidebar คุณสามารถเลือกให้แสดงได้โดย 2 วิธี

  1. เปิดปุ่มตั้งค่าที่ General > เปิด ปุ่มตั้งค่า
  2. Messages > ข้อความ ขอความยินยอม ใส่ Shortcode Cookie settings ไว้ในข้อความ

ประเภทการยินยอม : ชื่อเรื่อง หรือหัวข้อในการยินยอม เช่น คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์, คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย เป็นต้น

รายละเอียดการยินยอม : คำอธิบายสำหรับประเภทการยินยอมนี้ ว่าเก็บแล้วไปทำอะไรต่อ เก็บไว้เพื่อช่วยอะไรในการทำเว็บไซต์ให้ดีขึ้น ถ้าไม่ได้รับการยินยอมนี้ จะเกิดอะไรขึ้น

ชื่อคุกกี้ : เป็นชื่อคุกกี้ที่ใช้สำหรับเก็บความยินยอม โดยชื่อจะต้องไม่ซ้ำกัน และเป็นภาษาอังกฤษ ตัวเลข หรือเครื่อง -,_ เท่านั้น

ช่อง Code จะเป็นช่องที่เอาไว้ใส่สคริปต์ Tracking ต่างๆ เช่น Google Analytic, Facebook Pixel เป็นต้น โดยสคริปต์จะทำงานทันที หลังจากที่ลูกค้ากดยอมรับ และจะทำงานทุกครั้งโดยที่ระยะเวลาคุกกี้ยังอยู่ โดยจะทำการ Caching ไว้ในเครื่องผู้ใช้ ทำให้ลดภาระการทำงานของเซิฟเวอร์

Code ใน <head></head> : โค้ดหรือสคริปต์ ที่ใช้แทรกอยู่ใน Tag head

Code ถัดจาก <body> : โค้ดหรือสคริปต์ ที่ใช้แทรกถัดจาก Tag เปิด body

Code ก่อนปิด </body> : โค้ดหรือสคริปต์ ที่ใช้แทรกถัดจาก Tag ปิด body

Apperances

ความกว้างสูงสุดของ Popup : สามารถปรับความกว้างสูงสุดของ Container ใน popup ให้ตรงกับเว็บไซต์ของคุณ

โลโก้ : สามารถเลือกรูปที่มีอยู่แล้ว หรืออัพโหลดใหม่โดยจะแสดงใน Sidebar ด้านบน

สีหลัก : เป็นสีของลิงก์ และสีปุ่มทั้งใน Popup และ Sidebar

โหมด : มีสองโหมดให้เลือกระหว่างโหมด Light และ Dark

ตำแหน่ง ​Sidebar : เมื่อกดปุ่ม “ตั้งค่า” จะแสดง Sidebar ให้เลือกได้ว่าแสดงทางด้านซ้ายหรือขวา

Advanced

Template

​Designil PDPA ออกแบบมาให้สามารถ Override template ได้ โดยหน้านี้จะแสดงสถานะว่า ขณะนี้ปลั๊กอินใช้ไฟล์ไหนในการแสดง Popup และ Sidebar จะมีสองสถานะ

  1. Default ใช้เทมเพลตเดิมของธีม
  2. Override ถูกเขียนทับโดย User

Template เดิมของปลั๊กอินจะอยู่ที่โฟลเดอร์ wp-content/plugins/designil-pdpa/template โดยข้างในจะประกอบด้วย

  1. popup.php
  2. sidebar.php
วิธีการ Override template
  • ให้สร้าง folder ที่มีชื่อว่า “designil-pdpa” ในธีมปัจจุบันที่กำลังใช้งานอยู่ ตัวอย่างเช่น wp-content/themes/twentytwentyone/designil-pdpa/
  • จากนั้นนำไฟล์ทั้ง 2 ไฟล์ที่อยู่ใน wp-content/plugins/designil-pdpa/template มาวางลง folder ที่สร้างใหม่ในธีมที่ใช้งานอยู่
  • กลับไปตรวจสถานะที่ Tab Advanced ถ้าขึ้นสถานะว่า Override แสดงว่าเสร็จสมบูรณ์